blog-single-background

Blog

อุปกรณ์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใช้ในวงจรไฟฟ้ามีหลายชนิดและบทบาทต่างกันไปตามการใช้งาน ดังนั้น อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มักจะใช้ในวงจรไฟฟ้า

อุปกรณ์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

Published 22 Apr 2023

อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ใช้ในวงจรไฟฟ้ามีหลายชนิดและบทบาทต่างกันไปตามการใช้งาน ดังนั้น อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มักจะใช้ในวงจรไฟฟ้า ได้แก่

  1. สวิทช์ (Switch) - ใช้สำหรับเปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้า

  2. สายไฟ (Wire) - ใช้สำหรับนำกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆในวงจรไฟฟ้า

  3. หลอดไฟ (Light bulb) - ใช้สำหรับแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานแสง

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆอีกมากมายเช่น ตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าแบบสวิทช์โดยไม่ใช้หม้อแปลงไฟฟ้า (Switching power supply), กล่องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wireless router)

ในที่นี้เราจะแนะนำเกี่ยวกับ สวิทช์ สายไฟ และปลั๊กไฟฟ้า

สวิทช์ (Switch) ในตลาดมีหลายประเภท แต่สามประเภทหลักๆ คือ

  1. สวิทช์ไฟฟ้าแบบเปิด/ปิด (On/Off Switch) - ใช้สำหรับเปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้า โดยทั่วไปใช้สำหรับควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าไม่เกิน 10 แอมป์ โดยสามารถใช้ได้กับแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าตั้งแต่ 6 โวลต์ถึง 220 โวลต์

  2. สวิทช์ไฟฟ้าแบบควบคุมความเข้ม (Dimmer Switch) - ใช้สำหรับควบคุมความเข้มของแสงหรือแรงดันไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า โดยสามารถปรับความเข้มได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่ใช้กับไฟฟ้าแสงที่ต้องการปรับความสว่าง เช่น ไฟโคม หรือไฟฉาย

  3. สวิทช์ไฟฟ้าแบบโมเมนต์ (Momentary Switch) - ใช้สำหรับเปิดหรือปิดวงจรไฟฟ้าแบบชั่วคราว เช่น สวิทช์ปุ่มกด สามารถใช้สำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักรหรือเครื่องมือต่างๆที่ต้องการให้ทำงานชั่วคราวเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีสวิทช์ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น สวิทช์ไฟฟ้าแบบไร้สัมผัส (Touch Switch), สวิทช์ไฟฟ้าแบบรีโมสตัวควบคุม (Remote Control Switch), สวิทช์ไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ (Smart Switch)

ปลั๊กไฟฟ้า (Plug) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ไฟฟ้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า (Outlet) ซึ่งมีแบบต่างๆ อย่างน้อย 3 แบบ ดังนี้

  1. ปลั๊กไฟแบบแบน (Flat Plug) - มีลักษณะเป็นแผ่นแบนทั้งหมด ไม่มีหัวโค้งหรือขด พื้นผิวเรียบ และมีจุกยาวๆ สองข้าง เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่แคบ เช่น ในห้องน้ำหรือห้องครัว

  2. ปลั๊กไฟแบบขด (Polarized Plug) - มีขนาดและลักษณะเหมือนกับแบบแบน แต่มีหัวโค้งหรือขดที่ช่วยให้สามารถเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟฟ้าได้เฉพาะทิศทางเท่านั้น เหมาะสำหรับใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการกำหนดแนวละเอียดเป็นพิเศษ เช่น แอร์คอนดิชั่นเนอร์

  3. ปลั๊กไฟแบบมีหัวเทอร์มินัล (Grounded Plug) - มีลักษณะเป็นแบบขด แต่มีหัวเทอร์มินัลที่ช่วยป้องกันการช็อกไฟฟ้า เหมาะสำหรับใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความต้องการการป้องกันและความปลอดภัยสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เครื่องเสียงหรือเครื่องมือไฟฟ้าอื่นๆ ที่มีค่าไฟฟ้าสูง

อุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงมีหลากหลายประเภท ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาสูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไป เนื่องจากมีการใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูงมากกว่า

ตัวอย่างของอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงได้แก่

  1. สวิทช์และเสาเข็มทอง (Gold-Plated Switches and Pins) - สวิทช์และเสาเข็มทองมีการติดตั้งบนอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูง เพื่อให้มีความแม่นยำและป้องกันการกัดกร่อนที่จะส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์

  2. สายไฟฟ้า (Wire) - สายไฟฟ้าคุณภาพสูงจะมีความหนาแน่นและความแข็งแรงสูง ทำให้สามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นและมีการสูญเสียน้อยลง นอกจากนี้ยังมีสายไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยสูง เช่น สายไฟฟ้าที่มีการตัดกั้นและเป็นฉนวนเพื่อป้องกันการช็อกไฟฟ้า

สายไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญของวงจรไฟฟ้า เพราะเป็นตัวที่ใช้ส่งกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ โดยสายไฟฟ้ามีลักษณะดังนี้

  1. หลักการทำงาน - สายไฟฟ้าทำงานโดยใช้หลักการของไฟฟ้า และมีลักษณะเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไปยังอุปกรณ์ต่างๆ

  2. ขนาด - ขนาดของสายไฟฟ้ามีความหนาแน่นต่างกันตามการใช้งานและสามารถรับกระแสได้ตามขนาดของสาย สายไฟฟ้ามีขนาดตั้งแต่ 0.5 มิลลิเมตรถึง 100 มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการ

  3. สี - สายไฟฟ้ามีสีต่างๆ เพื่อแยกแยะว่าใช้สำหรับการทำงานใด สีที่พบบ่อยคือสีดำ (สายไฟฟ้าปกติ), สีแดง (สายไฟฟ้าพิเศษ), สีเหลือง (สายไฟฟ้าพิเศษ), สีเขียว (สายไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยสูง)

  4. ปกติ/ปลอดภัย - สายไฟฟ้ามีการออกแบบเพื่อให้ประกอบไปด้วยสิ่งป้องกันและมีความปลอดภัยสูง เช่น สายไฟฟ้าที่มีการตัดกั้นและเป็นฉนวนเพื่อป้องกันการช็อกไฟฟ้า

  5. ความยืดหยุ่น - สายไฟฟ้ามีความยืดหยุ่นต่างกันตามการใช้งาน

  6. ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม - สายไฟฟ้าต้องมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น ความทนทานต่ออุณหภูมิสูง, ความทนทานต่อความชื้น, ความทนทานต่อสารเคมี เป็นต้น

  7. ความยาว - สายไฟฟ้ามีความยาวต่างกันตามการใช้งาน อาจมีความยาวตั้งแต่ไม่กี่เซนติเมตรถึงกว่าหลักเมตร เช่น สายไฟฟ้าสำหรับเครื่องใช้ในบ้านมีความยาวประมาณ 1-2 เมตร

  8. การต่อสาย - สายไฟฟ้าสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้โดยใช้ตัวต่อไฟฟ้า ซึ่งตัวต่อไฟฟ้ามีหลายรูปแบบ เช่น ตัวต่อปลั๊กไฟ, ตัวต่อแบบปลั๊กเดี่ยว และตัวต่อแบบแยกสาย

  9. การต่อสายเข้ากับสายอื่น - สายไฟฟ้าอาจต้องต่อเข้ากับสายอื่น เช่น สายไฟฟ้าในบ้านต้องต่อเข้ากับสายไฟฟ้าที่มาจากสถานีไฟฟ้าหรือเข้ากับสายไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การทำงานได้ถูกต้อง

  10. การเชื่อมต่อสายไฟฟ้า - สายไฟฟ้ามีลักษณะการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อแบบปลั๊กเดี่ยว, การเชื่อมต่อแบบท่อกลม (Conduit), การเชื่อมต่อแบบสายไฟฟ้าที่ถูกซ่อมแซม

Share

ซื้อสินค้ากับเรา Sentoshi ง่าย ๆ เพียง ขอใบเสนอราคา เราจะติดต่อกลับทันที